JLL เผยผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2563
สะท้อนตัวอย่างของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เปิดตัวรายงาผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2563 (Global Sustainability Report 2020) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างคุณค่าให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้วยการส่งเสริมความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งจากการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการพัฒนาอาคารที่สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลง การสร้างสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขพลานามัยของพนักงาน และการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถใช้ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม
ในปีที่ผ่านมา เจแอลแอลกำหนดเป้าหมายที่จะลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายของข้อตกลงปารีสสำหรับปี 2577 โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากสำนักงานของเจแอลแอลทั่วโลกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ เป็นหลักเกณฑ์ที่จะช่วยให้บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งจากสำนักงานของตนเองและอาคารที่บริษัทรับเป็นผู้บริหารทั่วโลกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2583 ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าวของเจแอลแอลได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายคริสเตียน อัลบริค ซีอีโอดูแลกิจการทั่วโลกของเจแอลแอลกล่าวว่า “รายงาน Global Sustainability Report แสดงให้เห็นความก้าวหน้าอย่างมากของเราเกี่ยวกับเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ทั้งนี้ หนึ่งในสิ่งที่เราให้ความสำคัญเร่งด่วนด้านกลยุทธ์หลักของเรา คือขยายทุกบริการของเราให้ครอบคลุมแง่มุมด้านพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้น สอดรับกับจุดประสงค์ของเราในการร่วมกำหนดอนาคตอสังหาริมทรัพย์เพื่อโลกที่ดีกว่า”
นายริชาร์ด แบทเทิน ประธานบริหารดูแลทั่วโลกด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเจแอลแอลกล่าวว่า “การดำเนินการตามเป้าหมายของเรามีความคืบหน้าไปมากตามเกณฑ์ทุกด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตอบสนองต่อผลกระทบจากวิกฤติการณ์โรคระบาด”
ผลงานที่สำคัญๆ จากการดำเนินงานในปี 2563 ได้แก่
- การมีส่วนช่วยให้อาคารของลูกค้า 295 อาคารได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- ให้บริการที่ปรึกษาด้านการใช้พลังงานหมุนเวียนสำหรับโครงการต่างๆ ซึ่งนำไปสู่การหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นปริมาณรวมทั้งสิ้น 20,629 ตัน
- ด้านความเท่าเทียม พนักงานสตรีในบริษัทมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 35 ของพนักงานทั้งหมด
- ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มบริษัทที่มีจริยธรรมสูงสุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 14 โดย Ethisphere Institute
- ที่ทำการสำนักงานของเจแอลแอล 79 แห่งได้รับการรับรองมาตรฐานการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (scope 1) และทางอ้อม (scope 2) จากสถานประกอบการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทลง 23.7% จากปี 2561
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางด้านธุรกิจของพนักงานลง 77% จากปี 2562
- อัตราการเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นต้องหยุดงานของพนักงานลดลง 44% จากปี 2561
- พนักงานของบริษัทใช้เวลากับกิจกรรมจิตอาสารวม 7,959 วัน หรือคิดเป็นมูลค่าค่าแรงรวม 7.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในอนาคต เจแอลแอลจะตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการให้พนักงานทำกิจกรรมจิตอาสาคิดเป็นจำนวนเวลารวมให้ได้ 23,500 วันภายในปี 2566 เพื่อชดเชยการเสียโอกาสในการทำกิจกรรมอาสาของพนักงานในปีที่ผ่านมาจากผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาด
นอกจากนี้ การยอมรับความแตกต่างหลากหลายและความเสมอภาค กลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเจแอลแอล ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกองค์กร
จากสถาณการณ์โรคระบาด เจแอลแอลได้ร่นการศึกษาทบทวนผลการดำเนินการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จากปลายปี 2564 เข้ามาเป็นเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ในส่วนของประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะการยอมรับความแตกต่างหลากหลายและความเสมอภาค ได้รับการจัดลำดับให้มีความสำคัญสูงสุดสำหรับเจแอลแอล ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ได้รับการจัดให้มีความสำคัญเร่งด่วนด้วยเช่นกัน ได้แก่ จริยธรรมและการปฏิบัติกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ วัฒนธรรมองค์กร ชื่อเสียงของบริษัท นวัตกรรม-เทคโนโลยี การบริหารจัดการการใช้พลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสร้างการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของพนักงาน ความสามารถในการปรับตัวและการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ทำความเข้าใจมากขึ้นถึงความเสี่ยงด้านการเงินสำหรับอสังหาริมทรัพย์จากกรณีต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
ในปี 2562 เจแอลแอลได้ดำเนินการตามข้อแนะนำจากณะทำงานเพื่อพัฒนากรอบการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate-Related Financial Disclosure: TCFD) เพื่อให้เข้าใจถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่อาจกระทบต่อบริษัท รายงานฉบับประจำปี 2563 ของเจแอลแอลได้แสดงการประเมินเชิงคุณภาพถึงผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยเน้นเจาะจงลงไปที่ที่ทำการ 8 แห่งที่เจแอลแอลเช่าสำหรับการดำเนินกิจกรรมของของสำนักงานใหญ่ ซึ่งในระยะต่อไป เจแอลแอลจะยังคงทดสอบความสามารถของอาคารในการรองรับผลกระทบ และความสามารถของธุรกิจในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ควบคู่กับการประเมินผลกระทบต่อลูกค้า และขยายการศึกษาทบทวนให้ครอบคลุมผลกระทบที่มีต่อสังคม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และพนักงานของบริษัทต่อไป
เกี่ยวกับ JLL
JLL จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกในธุรกิจบริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์และบริหารการลงทุน วิสัยทัศน์ของเราคือการร่วมกำหนดอนาคตอสังหาริมทรัพย์เพื่อโลกที่ดีกว่า โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดเพื่อสร้างโอกาสการให้ผลตอบแทนที่ดี สรรค์สร้างอสังหาริมทรัพย์อันน่าอัศจรรย์และเสนอทางออกที่เน้นความยั่งยืนสำหรับลูกค้า พนักงาน และชุมชน JLL เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทที่ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้สูงสุดตามการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์จูน โดยในปีที่ผ่านมา มีรายได้ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 16,600 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศและมีพนักงานทั่วโลกรวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 91,000 คน (ณ วันที่ 30 มีนาคม 256ภ) JLL เป็นชื่อแบรนด์และเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ (Jones Lang LaSalle Incorporated) ต้องการข้อมูลเพิ่ม โปรดไปที่ jll.com