ข่าวสาร

การลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกสามไตรมาสแรกมีมูลค่ารวม 7.8 พันล้านดอลลาร์

คาดมูลค่าทั้งปีทะลุ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์

ตุลาคม 29, 2562

รายงานวิจัยจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เปิดเผยว่าในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ เอเชียแปซิฟิกมีการซื้อขายโรงแรมเกิดขึ้นคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7.8 พันล้านบาท พร้อมคาดว่า มูลค่ารวมจะขยับขึ้นไปเป็น 1.1 หมื่นล้าน ณ สิ้นปี เพิ่มขึ้น 25-30% จากปี 2561 

นายไมค์ แบทเชเลอร์ ซีอีโอภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม เจแอลแอล กล่าวว่า “แม้จะมีความไม่แน่นอนทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก แต่โรงแรมในเอเชียปิฟิกยังคงเป็นธุรกิจที่เสนอผลตอบแทนการลงทุนที่น่าดึงดูดใจ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวของของภูมิภาคนี้ ยังคงเติบโตต่อเนื่องในขณะที่อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากพันธบัตรปรับตัวลดลง”

“บริษัทที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุนภายในประเทศ มีความต้องการสูงในการลงทุนซื้อโรงแรม ดังนั้น เชื่อปี 2562 นี้จะเป็น 1 ใน 3 ปีที่การลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าสูงสุดในช่วง 10 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเพียงปี 2560 และ 2558 เท่านั้นที่การลงทุนซื้อขายมีมูลค่ารวมเกิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์”

การที่มูลค่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมสามไตรมาสแรกของปีนี้ขึ้นไปถึง 7.8 พันล้านดอลลาร์แล้ว โดยเฉพาะญี่ปุ่น มีการซื้อขายโรงแรมขึ้นอย่างคึกคัก จากอานิสงค์ของการเป็นเจ้าภาพการจัดงานรักบี้เวิร์ลคัพ 2019 และการเตรียมเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2020 ที่โตเกียว โดยในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา มีการลงทุนซื้อขายโรงแรมในญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 3 พนล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะขยับขึ้นไปเป็น 4 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี

การลงทุนซื้อขายโรงแรมโดยรวมสำหรับเอเชียแปซิฟิกยังคงมีแนวโน้มที่ดี ตลาดใหญ่เช่นจีนมีแนวโน้มที่จะมีนักลงทุนหันมาสนใจซื้อโรงแรมมากขึ้น เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์หลักประเภทอื่น ได้แก่ อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า มีความต้องการเช่าพื้นที่ชะลอตัวลง ในขณะที่ภาคธุรกิจโรงแรมยังคงมีผลประกอบการในระดับคงที่

สิงคโปร์มีการซื้อขายรายการใหญ่เกิดขึ้น 2-3 รายการในปีนี้ โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เจแอลแอลได้เป็นตัวแทนบริษัท OUE ในการขายโรงแรม Oakwood Premier OUE ให้กับบริษัทร่วมทุนจากฮ่องกงด้วยมูลค่า 209 ล้านดอลลาร์ และเมื่อเร็วๆ นี้ เจแอลแอลประสบความสำเร็จในการเป็นตัวแทนเจรจาการซื้อขายโรงแรม Andaz Singapore มูลค่า 344 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นการซื้อขายโรงแรมที่มีมูลค่าสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในสิงคโปร์

ทุนต่างชาติแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้น

รายงานจากเจแอลแอลเปิดเผยว่า แม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกับการลงทุนซื้อโรงแรมในประเทศของตน โดยเฉพาะ ญี่ปุ่นและจีน แต่พบว่า มีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากที่หลังไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้ เพื่อแสวงหาโอกาสจากการเติบโตของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและผลตอบแทนการลงทุนสูง

ตัวอย่างเช่น เกาหลีใต้ พบว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนพุงสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนซื้อโรงแรมได้มากขึ้น เนื่องจากมีนักลงทุนประเภทสถาบันจำนวนมากขึ้นที่เตรียมขายสินทรัพย์ออกมาหลังครบระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับการถือครอง

นายนิฮาท เออร์แคน กรรมการผู้จัดการฝ่ายตัวแทนขายภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม เจแอลแอล กล่าวว่า “นับย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 ลงไป นักลงทุนที่ซื้อโรงแรมในเกาหลีใต้ล้วนเป็นนักลงทุนภายในประเทศ แต่ปัจจุบัน ราว 1 ใน 4 ของมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้น เป็นการซื้อโดยต่างชาติ และมีแนวโน้มว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น”

อีกตลาดหนึ่งนักลงทุนต่างชาติมีบทบาทสูง ได้แก่ มัลดิฟส์ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังนี้ มีต่างชาติเข้าซื้อโรงแรมรวมมูลค่า 260 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

“การที่ทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างชาติต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูง ทำให้มีแนวโน้มว่า ธุรกิจโรงแรมในภูมิภาคนี้จะยังคงเป็นตลาดการลงทุนดาวเด่น เชื่อว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปถึงปี 2563”


เกี่ยวกับ JLL

JLL จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกในธุรกิจบริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์และบริหารการลงทุน วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างจินตนาการใหม่ให้กับโลกแห่งอสังหาริมทรัพย์ สร้างโอกาสที่ดี และมีส่วนร่วมในการสรรค์สร้างอสังหาริมทรัพย์อันน่าอัศจรรย์ให้เป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสานความใฝ่ฝันให้เป็นจริง ซึ่งตามวิสัยทัศน์ที่นี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าให้กับลูกค้า พนักงานและชุมชนของเรา JLL เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทที่ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้สูงสุดตามการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์จูน โดยในปีที่ผ่านมา มีรายได้ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 1.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศและมีพนักงานทั่วโลกรวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 91,000 คน (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) JLL เป็นชื่อแบรนด์และเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ (Jones Lang LaSalle Incorporated) ต้องการข้อมูลเพิ่ม โปรดไปที่ jll.com