ข่าวสาร

นักลงทุนมีแนวโน้มแข่งขันแย่งชิงโอกาสการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิกสูงขึ้นในปีนี้

JLL เผยผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนชั้นนำของโลกและภูมิภาคประจำปี 2565

มีนาคม 28, 2565

ผลการสำรวจความคิดนักลงทุนล่าสุดจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เผยให้เห็นว่า นักลงทุนยังคงมั่นใจในศักยภาพและพร้อมลงทุนซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียแปซิฟิก แต่ขณะเดียวกัน กว่า 80% ของนักลงทุนที่ร่วมทำแบบสำรวจ ได้แสดงความกังวลว่า อาจมีอุปสรรคในมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนแข่งขันกันสูงขึ้นในการแย่งชิงโอกาสการซื้อ

นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังที่จะเพิ่มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ และเล็งเห็นความจำเป็นของการกระจายการลงทุน ในภาวะที่การซื้อสินทรัพย์เพื่อลงทุนมีการแข่งขันสูง โดยนักลงทุนหลายรายมีแผนที่จะกระจายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทขึ้น ทั้งในและนอกอสังหาริมทรัพย์กลุ่มหลัก

การแข่งขันแย่งชิงโอกาสการลงทุนซื้อ เป็นประเด็นใหญ่สำหรับตลาดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีความผันผวนมากขึ้น แต่ตลาดการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค ยังคงมีการแข่งขันสูงในหมู่นักลงทุนผู้ซื้อ นอกจากนี้ การมีอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนเสนอขายในตลาดไม่มาก ยังผลักดันให้นักลงทุนหลายราย หันไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าไปลงทุนมาก่อน เพื่อเปิดช่องทางการขยายการลงทุนเข้าไปในตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทนั้นๆ เพิ่มขึ้นต่อไป ในขณะที่มีนักลงทุนอีกจำนวนมากที่ใช้กลยุทธ์การควบรวมกิจการบริษัทที่เป็นเจ้าของแทนการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง

ผลการสำรวจของเจแอลแอลยังเผยให้เห็นว่า ประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดในภูมิภาค ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย

ส่วนสินทรัพย์ลงทุนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปีนี้ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์กลุ่มโลจิสติกส์ ซึ่งมาเป็นอันดับหนึ่ง โดย 90% ของนักลงทุนมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยสำหรับให้เช่าแก่หลายครอบครัว (Multifamily – ในกรณีของประเทศไทย รูปแบบที่มีให้เห็น คือ อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า) ตามมาเป็นอันดับสอง ซึ่งแม้ญี่ปุ่นเกือบจะเป็นตลาดเดียวที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ แต่มีนักลงทุนสูงถึง 70% ที่แสดงความสนใจ อาคารสำนักงานซึ่งนับเป็นอสังหาริมทรัพย์กลุ่มหลัก ได้รับความสนใจจากนักลงทุนตามมาเป็นอันดับสาม (60%) ในปีนี้

จากการแข่งขันที่สูงขึ้นในการแย่งชิงโอกาสการลงทุนซื้อ การที่อสังหาริมทรัพย์ยังเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี และความจำเป็นในการหาแหล่งลงทุน เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนหลายรายมองหากลยุทธ์ใหม่และพิจารณายอมรับการลงทุนที่อาจมีความเสี่ยงกว่าเดิม โดย 53% ของนักลงทุนที่ร่วมทำแบบสำรวจสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะโดยการหาช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มจากอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อ หรือการซื้อมาเพื่อปรับปรุง และ 52% มีแผนที่จะลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสียงเพิ่มขึ้น แต่มีโอกาสในการให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ของเจแอลแอล มีนักลงทุนชั้นนำระดับโลกและระดับภูมิภาคเข้าร่วม 37 ราย ซึ่งมีสินทรัพย์ลงทุนในความดูแลรวมกันคิดเป็นมูลค่ากว่าสองล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคำถามเน้นที่แผนและกลยุทธ์การลงทุน รวมถึงมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดการลงทุนสำหรับปี 2565


เกี่ยวกับ JLL

JLL จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: JLL) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกในธุรกิจบริการและบริหารการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ JLL มีส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตของอสังหาริมทรัพย์เพื่อโลกที่ดีกว่า ด้วยการสรรค์สร้างโอกาสที่ดี อสังหาริมทรัพย์ที่ยอดเยี่ยม และช่องทางในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งสำหรับลูกค้าและพนักงานของบริษัท ตลอดรวมจนถึงชุมชน โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุด JLL เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำที่ได้รับการจัดอันดับโดยฟอร์จูน (Fortune 500) ดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศ และมีพนักงานทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 รวมกว่า 98,000 คน ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ทั่วโลกคิดเป็นยอดรวมทั้งสิ้นกว่า 19,400 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ JLL เป็นเครื่องหมายการค้าของ Jones Lang LaSalle Incorporated อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ jll.com